ดอกแพนซี (Pansy)

ลักษณะเป็นไม้ดอกล้มลุกสูง 10 – 20 เซนติเมตร ออกดอกตามซอกใบ 1-2 ดอก มีหลายสีเช่นม่วงอมน้ำเงิน เหลือง ขาว ดอกมีทั้งเล็กและใหญ่ จัดวางไว้ได้ทุกส่วน แล้วแต่ความสูงของต้น และขนาดของดอก ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
"แพนซี่" หลากสีหลายชนิด ซึ่งแพนซี่แต่ละสีแต่ละแบบ ก็มีชื่อเฉพาะของตนเอง เช่น สีม่วงและคราม ชื่อว่า 'Blue & Purple Rain' Viola, สีเหลืองไส้ตรงกลาง (เขาเรียกว่า 'ตา') ออกม่วงเข้ม ชื่อว่า 'Fizzy Lemonberry', สีเหลืองทั้งดอก ชื่อว่า'Karma Yellow', สีม่วงอ่อน 'ตา' ม่วงแก่ ชื่อว่า 'Maxim Marina', สีส้มทั้งดอก ชื่อว่า 'Padpardja', สีขาวประกายเงินเหลือบม่วงอ่อน ชื่อว่า 'Baby Blue', สีม่วง 'ตา' เหลือง ชื่อว่า 'Lemon and Plum Picotee'
แพนซี่เป็นไม้ดอกโบราณของอังกฤษ เริ่มปลูกกันมาตั้งแต่ยุค 1830s ลักษณะเด่นของดอกไม้ชนิดนี้คือ เป็นดอกไม้ที่มี "หน้า" ซึ่งก็คือรูปดอกของแพนซี่นั่นเอง แถมยังมีสีสันสวยงามมากมาย ชื่อของดอกแพนซี่ มีที่มาจากคำในภาษาฝรั่งเศสว่าpensée แปลว่า "นึก, คิด" (thought) ว่ากันว่า รูปดอกหรือ "หน้า" ของดอกแพนซี่ พิศดูดีๆ ละม้ายกับใบหน้าคนกำลังใช้ความคิดอยู่ (คนเสนอความคิดนี้ คงเป็นคนช่างจินตนาการไม่น้อย) ... นอกจากนี้ ความสวยงามน่ารักของดอกแพนซี่ ยังทำให้เกิดความสุขใจ และเป็นสัญลักษณ์ของความรื่นเริงใจอีกด้วย...
แพนซี่เป็นดอกไม้ในตระกูล "ไวโอลา" (viola) เช่นเดียวกับไวโอเล็ต ไวโอลาเป็นตระกูลดอกไม้ที่ใหญ่โตมาก มีดอกไม้ในวงศ์วานกว่า 500 ชนิด แต่ "แพนซี่" เป็นดอกไม้ที่ใครๆ มักจะเอ็นดูด้วยหน้าตาของมันนั่นเอง ...
ดอกแพนซี่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ และรับประทานได้ จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะปลูกไว้ในสวน ทั้งดอกและใบแพนซี่ อุดมไปด้วยวิตามินเอ และ ซี ดอกแพนซี่สามารถนำไปทำเป็นน้ำเชื่อมก็ได้ เสริมรสชาติให้น้ำผึ้ง โรยหน้าสลัดก็ดี ทั้งใบและดอกแพนซี่ นำไปตกแต่งหน้าสลัดผลไม้ หรือครีมซุปก็เข้าท่า บางตำราก็นำดอกแพนซี่ไปเป็นสีธรรมชาติสำหรับย้อมผ้าอีกด้วย ..
ดอกของแพนซี่เป็นดอกเดี่ยว มีกลีบดอกห้ากลีบกลมมน รูปแบบของสีดอกแพนซี่มีถึงสามแบบ แบบแรกคือ กลีบดอกสีเดียวทั้งดอก สีสดเจิดจ้าสวยสดน่ามอง เช่น สีเหลือง สีน้ำเงิน แบบที่สองคือ กลีบดอกสีเดียว แต่มีเส้นสีดำบางๆ แผ่รัศมีออกมาจากใจกลางดอก เส้นเหล่านี้เรียกว่า "รอยดินสอ" (Penciling) ซึ่งมีเหมือนกับเส้นใน "ไวโอลา" นั่นเอง แบบที่สาม ซึ่งน่าจะเป็นที่คุ้นตากันมากที่สุด คือกลีบดอกเป็นสีอะไรก็ได้ แต่ใจกลางดอกจะเป็นสีเข้ม ที่เรียกกันว่า "หน้า" ("face")
แพนซี่บางชนิดมีกลิ่นหอมอ่อนจางคล้ายน้ำหอมบางชนิด เมื่อได้กลิ่นหอมนี้แล้วจะจรุงใจจนเป็นที่จดจำได้นาน มักจะได้กลิ่นหอมในช่วงเช้าตรู่หรือย่ำค่ำ แพนซี่ที่มีกลิ่นหอมมาก คือสีเหลืองและสีน้ำเงิน ...
ในโลกตะวันตก นักทำสวนนิยมปลูกแพนซี่กันมากด้วยความที่เลี้ยงง่าย ไม่มีโรคภัยและแมลงเบียดเบียน ปลูกได้ขึ้นดีในทุกฤดูกาล ...
แพนซี่เป็นดอกไม้ยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ ""สวนแบบกระท่อม" (Cottage Garden) แม้ว่าจริงๆ แล้ว ไม่ว่าสวนแบบไหนก็ปลูกแพนซี่ได้สวยงามทั้งนั้น แต่สำหรับสวนกระท่อมจะรักใคร่แพนซี่เป็นพิเศษ ด้วยคุณสมบัติคือออกดอกสวยงามได้ในทุกฤดูกาล และนิยมนำมาปลูกประดับริมทางเดิน (border)
ในโลกตะวันตก ดอกแพนซี่จะเริ่มบานในฤดูใบไม้ผลิ บานต่อเนื่องไปถึงฤดูร้อน และในภูมิอากาศบางแห่ง แพนซี่บางชนิดก็บานได้ทั้งในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวด้วย ส่วนในบ้านเรา ซึ่งอากาศจะเป็นแบบเดียวตลอดกาล ถ้าปลูกดีๆ ได้ดินดี อากาศปลอดโปร่ง แพนซี่ก็จะเบ่งบานสะพรั่งได้ตลอดทั้งปีเช่นกัน ...
แพนซี่ (Pansy) เป็นวิธีพูดแบบอังกฤษสำหรับคำฝรั่งเศสว่า "pensée" ซึ่งมีความหมายว่า นึก,คิด (thought) ผู้คนสมัยก่อนก็มักจะมอบดอกแพนซี่ให้แก่คนที่ชอบพอกัน โดยเฉพาะคนพิเศษที่ปรารถนาจะให้มีการสานต่อซึ่งความสัมพันธ์ ความคิดถึง หรือระลึกถึงกัน ...
แพนซี่ ... ดอกไม้ดอกน้อยๆ ที่กลีบนุ่มเนียนดั่งกำมะหยี่ที่คนอังกฤษมักจะชอบปลูกกันตามริมทางเดินในสวน มีมาตั้งแต่สมัยวิคตอเรียน โดยมีที่มาจาก "แพนซี่ป่า" (Wild Pansy) ที่เชคสเปียร์กล่าวถึงในบทกวีว่า "Love-in-idleness" ดอกไม้ที่น่ารักนี้ มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมี "หน้ายิ้ม" และยังร่ำลือกันมาแต่โบราณว่าเป็น "ยาเสน่ห์" (Love potion) อันเป็นที่มาของการที่ตัวละครชื่อ Titania ตกหลุมรักกับลาใน A Midsummer Night's Dream
แพนซี่ป่าเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนและเด็กๆ ในชนบทอังกฤษมาตั้งแต่ครั้งกระโน้น เรียกขานกันด้วยชื่อหลายชื่อ เช่น Two-faces-under-the-sun, Face-and-hood และ Tickle-my-fancy. ยังเรียกกันว่า Herb Trinity ด้วย เพราะความที่ดอกแพนซี่มักจะมีสามสีในดอกเดียวนั่นเอง แต่ในบรรดาชื่อที่เรียกขานกันทั้งหมด ชื่ออันเป็นที่รู้จักมากที่สุด (ของคนอังกฤษสมัยก่อน) คือ'Heart's-ease', for it was believed that by carrying the flower about with you, you would ensure the love of your sweetheart. "ดอกไม้สบายใจ" เพราะเชื่อกันว่า เมื่อมีดอกแพนซี่ติดตัวไปไหนๆ ก็จะสุขใจว่ามีหัวใจรักของคนที่รักคุณอยู่ใกล้ๆ เสมอ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น